อุมัร ฮะซัน อะห์มัด อัลบะชีร (
อาหรับ: عمر حسن أحمد البشيرcode: ar is deprecated ; เกิดวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1944) เป็นหัวหน้า
พรรคเนชันแนลคองเกรส และอดีตประธานาธิบดีของ
ประเทศซูดาน เริ่มเข้ามามีอำนาจทางการเมืองครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1989 ขณะยังเป็นนายทหารยศ
พันโท โดยเป็นผู้นำกลุ่มนายทหารทำ
รัฐประหารไม่นองเลือดขับไล่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี
ซาดิก อัลมะฮ์ดี (Sadiq al-Mahdi) ซึ่งเป็นรัฐบาลที่มาจาก
การเลือกตั้งตาม
ระบอบประชาธิปไตย[1]ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2004 รัฐบาลของนายอัลบะชีรได้เจรจายุติ
สงครามกลางเมืองซูดานครั้งที่สอง ซึ่งเป็นสงครามที่ดำเนินมาต่อเนื่องยาวนานที่สุดและนองเลือดที่สุดครั้งหนึ่งในคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยให้อำนาจปกครองตนเองบางส่วนใน
เซาท์ซูดานซึ่งเป็นพื้นที่เกิดสงคราม อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองแล้ว รัฐบาลของนายอัลบะชีรได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางต่อบทบาทของรัฐบาลใน
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ดาร์ฟูร์ อันเป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์ประชากรที่ไม่ใช่ชาวอาหรับครั้งใหญ่ในซูดาน มีผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวอยู่ระหว่าง 200,000
[2] ถึง 400,000 คน
[3] บทบาทของนายอัลบะชีรในเรื่องนี้ได้นำไปสู่การสู้รบอย่างรุนแรงระหว่างกองกำลังติดอาวุธของพวก
ญันญะวีด (Janjaweed) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายรัฐบาล และกองกำลังกบฏฝ่ายต่างๆ อันได้แก่
กองทัพปลดแอกประชาชนซูดาน (Sudan People's Liberation Army, SPLA)
กองทัพปลดปล่อยซูดาน (Sudanese Liberation Army, SLA) และ
ขบวนการความยุติธรรมและความเสมอภาค (Justice and Equality Movement, JEM) ซึ่งทำการรบในรูปแบบ
สงครามกองโจรในแคว้นดาร์ฟูร์ ผลจากสงครามครั้งนี้ทำให้ประชาชนกว่า 2.5 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย
[4] และความสัมพันธ์ระหว่าง
ประเทศชาดกับซูดานตกต่ำลงจนถึงระดับวิกฤต
[5]เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2008
ลุยส์ โมเรโน โอกัมโป อัยการประจำ
ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court, ICC) ได้ฟ้องร้องนายอัลบะชีรในข้อหา
ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ กระทำ
อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และ
อาชญากรรมสงครามในแคว้นดาร์ฟูร์
[6] ศาลได้ออกหมายจับนายอัลบะชีรเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2009 ในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอาชญากรรมสงคราม แต่ไม่รวมข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เนื่องจากศาลได้ชี้ว่าหลักฐานที่จะฟ้องร้องด้วยข้อหาดังกล่าวยังมีไม่เพียงพอ
[7] หมายจับดังกล่าวได้ถูกนำส่งไปยังรัฐบาลซูดาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
[7] อย่างไรก็ตาม นายอัลบะชีรยังคงดำรงตำแหน่งประมุขของประเทศต่อไปแม้จะมีหมายจับจากศาลอาญาระหว่างประเทศออกมาก็ตาม
[7]นายอัลบะชีรลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งทั่วไปของซูดานในปี ค.ศ. 2009 นับเป็นการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคการเมืองของซูดานครั้งแรกในรอบ 9 ปี
[8][9] คู่แข่งคนสำคัญของนายอัลบะชีรคือนาย
ซัลวา กีร์ มายาร์ดิต (Salva Kiir Mayardit) รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นผู้นำของกองทัพปลดแอกประชาชนซูดาน (SPLA)
[10]